‘ศิริราช’ เผยคำตอบองค์กรใหญ่ ควรปรับตัวอย่างไรในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง

แม้จะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ และประสบความสำเร็จในหลายด้าน แต่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล องค์กรผู้คว้ารางวัล Thailand Quality Class Plus: Operation 2020 จากเวทีรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กลับไม่หยุดที่จะพัฒนาและมุ่งสู่การเติบโตต่อไปในระดับที่สูงขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำด้านการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทว่า การก้าวเดินบนเส้นทางสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ คงไม่อาจหลีกเลี่ยงต่อการเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่เป็นที่มาที่ทำให้ศิริราชต้องเร่งคิดค้นกลยุทธ์ และพัฒนาตนเองเพื่อให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง

แนวทางปรับตัวเพื่อเป้าหมายของศิริราชเป็นอย่างไร ?

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย การเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีบุคลากรกว่า 16,000 คน 300 กว่าหน่วยงาน ประกอบกับอายุขององค์กรที่ค่อนข้างมาก ทำให้การขยับปรับเปลี่ยนนั้นอาจไม่คล่องตัว แตกต่างจากองค์กรที่มีขนาดเล็กกว่า ‘การลงมือพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ’ จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ศิริราชได้นำมาปรับใช้ในองค์กร และยึดเป็นหลักในการก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ลองมาพิจารณาจากสิ่งที่ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้แบ่งปันไว้ในงานสัมมนา TQA 2020 Winner Conference ว่าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ ศิริราชมีวิธีการปรับตนเองอย่างไรบ้าง ?

    เป้าหมายและกลยุทธ์ต้องชัดเจน

ทุกองค์กรจำเป็นต้องกำหนดไว้อย่างเป็นขั้นตอน สร้าง Roadmap ในการดำเนินงาน เพื่อเป็นกรอบให้คนในองค์กรสามารถเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง สอดรับกับทิศทางสู่ความสำเร็จที่ต้องการ

 

 

 ยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ต่อความท้าทาย

โดยศิริราชเริ่มจากการวิเคราะห์ความท้าทายต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อค้นหาแนวทางในการเผชิญหน้าและรับมือต่อผลกระทบจากสิ่งเหล่านั้น เพราะหากองค์กรมีความพร้อมความท้าทายก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป

 

 

ผู้นำต้องพร้อมเป็นต้นแบบ

ซึ่งศิริราชเน้นย้ำถึงบทบาทของผู้นำที่ต้องสามารถถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และจิตวิญญาณแห่งความเป็นเลิศสู่บุคลากรในระดับต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ทุกคนในองค์กรกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และพร้อมมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน

 

 

เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร

ทั้งการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ยกระดับการบริหารจัดการบุคลากร การวางแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่มีความแตกต่างกันตามเป้าหมายขององค์กร และคิดค้นกิจกรรมที่สามารถเพิ่มความผูกพันระหว่างบุคลากรกับองค์กรได้

 

 

สร้างเครือข่าย

เพราะความสำเร็จไม่อาจเกิดขึ้นได้จากคนเพียงกลุ่มเดียว ศิริราชจึงรวบรวมเครือข่าย และสร้างพันธมิตรร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ศิษย์เก่า องค์กรภาครัฐ และเอกชน เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

 

 

พึ่งพานวัตกรรม

โดยพยายามนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน และทำลายข้อจำกัดด้านต่าง ๆ เพื่อให้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านการแพทย์ในระดับสากลนั้นเป็นจริงได้

 

 

สิ่งที่ศิริราชได้แบ่งปันให้เราได้ทราบนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่า การจะขับเคลื่อนองค์กรขนาดใหญ่ไปสู่จุดหมายได้ แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ต้องอาศัยความทุ่มเท ภายใต้การวางแผนและกระบวนการที่ชัดเจน ควบคู่กับการมีบุคลากรที่พร้อมก้าวหน้าไปด้วยกัน และมีนวัตกรรมที่พร้อมผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น หวังว่าข้อคิดที่นำมาแบ่งปันในบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับองค์กรที่ต้องการประสบความสำเร็จ และก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความเป็นเลิศเช่นเดียวกับศิริราชต่อไปในอนาคต

…………….

ที่มา : งานสัมมนา Thailand Quality Award 2020 Winner Conference ,Journeys to the Pride of World-Class Excellence วันที่ 19 สิงหาคม 2564
• การขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีวิสัยทัศน์สู่ความเป็นผู้นำและองค์กรสมรรถนะสูง โดย ศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
• การเชื่อมโยงระบบงานสู่การปฏิบัติการที่เป็นเลิศ โดย พญ.ดวงมณี เลาประสิทธิพร รองคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล

…………….

หลักสูตรแนะนำ